ไนอาซิน

ไนอาซินหรือวิตามินบี 3 เป็นหนึ่งในวิตามินบีรวมที่ละลายน้ำได้ ซึ่งร่างกายต้องการเพื่อเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน วิตามินและแร่ธาตุทั้งหมดมีความสำคัญต่อสุขภาพที่ดี แต่ไนอาซินมีประโยชน์ต่อระบบประสาทและระบบย่อยอาหารเป็นพิเศษ ลองมาเจาะลึกกันเพื่อทำความเข้าใจประโยชน์ของไนอาซินและผลข้างเคียงให้ดียิ่งขึ้น

ไนอาซินมีอยู่ในอาหารหลายชนิดตามธรรมชาติ และมีจำหน่ายในรูปแบบอาหารเสริมและยาตามใบสั่งแพทย์ ดังนั้นจึงง่ายต่อการได้รับไนอาซินในปริมาณที่เพียงพอและได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายจะเปลี่ยนไนอาซินให้เป็นโคเอนไซม์ที่ใช้งานได้ที่เรียกว่า นิโคตินาไมด์อะดีนีนไดนิวคลีโอไทด์ (NAD) ซึ่งเอนไซม์มากกว่า 400 ชนิดในร่างกายนำไปใช้เพื่อทำงานสำคัญต่างๆ

แม้ว่าการขาดไนอะซินจะพบได้น้อยในประชากรในสหรัฐอเมริกา แต่ก็อาจรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดโรคระบบที่เรียกว่าเพลลากราได้ โรคเพลลากราที่ไม่รุนแรงอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงและผิวหนังอักเสบ ในขณะที่อาการที่รุนแรงกว่าอาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมและอาจถึงแก่ชีวิตได้

โรคเพลลากราพบได้บ่อยที่สุดในผู้ใหญ่อายุระหว่าง 20 ถึง 50 ปี แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการรับประทานไนอาซินในปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (RDA) ปริมาณไนอาซินที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 14 ถึง 16 มิลลิกรัม ไนอาซินสามารถหาได้ง่ายในอาหาร เช่น ปลา ไก่ เนื้อวัว ไก่งวง ผลไม้ และผัก นอกจากนี้ ร่างกายยังสามารถสร้างไนอาซินได้จากกรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งกรดอะมิโนนี้พบได้ในอาหาร เช่น ไก่ ไก่งวง ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

ไนอาซินยังปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินรวมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์หลายชนิด ทั้งวิตามินรวมสำหรับผู้ใหญ่ Nature Made และ Centrum มีไนอาซิน 20 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งคิดเป็นประมาณ 125% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ กรดนิโคตินิกและนิโคตินาไมด์เป็นอาหารเสริมไนอาซินสองรูปแบบ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไนอาซินที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์มีจำหน่ายในขนาดความแรงที่หลากหลาย (50 มิลลิกรัม, 100 มิลลิกรัม, 250 มิลลิกรัม, 500 มิลลิกรัม) ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน ไนอาซินที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์มีชื่อทางการค้า เช่น Niaspan (ออกฤทธิ์นาน) และ Niacor (ออกฤทธิ์ทันที) และมีความเข้มข้นสูงถึง 1,000 มิลลิกรัม ไนอาซินสามารถพบได้ในสูตรออกฤทธิ์นานเพื่อลดผลข้างเคียงบางอย่าง

บางครั้งไนอาซินจะถูกกำหนดให้ใช้ร่วมกับยาที่ลดคอเลสเตอรอล เช่น สแตติน เพื่อช่วยปรับระดับไขมันในเลือดให้เป็นปกติ

หลักฐานอื่นๆ บ่งชี้ว่าไนอาซินมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจวายและโรคหัวใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่เพียงแต่ช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL เท่านั้น แต่ยังช่วยลดไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย ไนอาซินสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ 20% ถึง 50%