วิตามินบี 7 (ไบโอติน)

ไบโอตินไบโอตินเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบี และรู้จักกันในชื่อวิตามินเอช ร่างกายต้องการไบโอตินเพื่อช่วยเปลี่ยนสารอาหารบางชนิดให้เป็นพลังงาน นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของคุณด้วยผมผิวหนัง และเล็บ.

วิตามินบี 7 หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าไบโอติน เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้และมีความสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญและการทำงานของร่างกาย มันเป็นส่วนประกอบสำคัญของเอนไซม์หลายชนิดที่รับผิดชอบในกระบวนการเผาผลาญที่สำคัญหลายอย่างในร่างกายมนุษย์ รวมถึงการเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต ตลอดจนกรดอะมิโนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน

ไบโอตินเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ และมักเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้สำหรับบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายเพื่อดูแลผิวพรรณด้วย

วิตามินบี 7 พบได้ในอาหารหลายชนิด แต่ในปริมาณน้อย ได้แก่ วอลนัท ถั่วลิสง ซีเรียล นม และไข่แดง อาหารอื่นๆ ที่มีวิตามินนี้ ได้แก่ ขนมปังโฮลวีต ปลาแซลมอน เนื้อหมู ปลาซาร์ดีน เห็ด และดอกกะหล่ำ ผลไม้ที่มีไบโอติน ได้แก่ อะโวคาโด กล้วย และราสเบอร์รี่ โดยทั่วไปแล้ว การรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยให้ร่างกายได้รับไบโอตินในปริมาณที่เพียงพอ

ไบโอตินมีความสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ในกระบวนการเผาผลาญหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับกรดไขมันและกรดอะมิโนจำเป็น รวมถึงในกระบวนการสร้างกลูโคสจากสารที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต แม้ว่าภาวะขาดไบโอตินจะพบได้น้อย แต่บางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงมากกว่า เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคโครห์น อาการของภาวะขาดไบโอติน ได้แก่ ผมร่วง ปัญหาผิวหนังรวมถึงผื่นแดง ปากแตกเป็นรอย ตาแห้ง และเบื่ออาหาร วิตามินบี 7 ช่วยส่งเสริมการทำงานที่เหมาะสมของระบบประสาทและมีความสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญของตับเช่นกัน

ไบโอตินเป็นสารเสริมอาหารที่มักแนะนำให้รับประทานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผมและเล็บ รวมถึงใช้ในการดูแลผิวพรรณ มีการแนะนำว่าไบโอตินช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และการบำรุงรักษาเยื่อเมือก วิตามินบี 7 สามารถช่วยดูแลเส้นผมที่บางและเล็บเปราะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะขาดไบโอติน

มีหลักฐานบางอย่างแสดงให้เห็นว่าผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอาจมีความเสี่ยงต่อการขาดไบโอติน เนื่องจากไบโอตินเป็นปัจจัยสำคัญในการสังเคราะห์กลูโคส จึงอาจช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้